ในบทความนี้เรามาแนะนำโปรแกรมสแกนไวรัสที่ดีและเหมาะสมกับองค์กรทุกองค์กรให้ดูครับว่าควรเลือกใช้งานโปรแกรมแบบไหนดี แล้วการทำงานของโปรแกรม Antivirus แบบไหนที่เหมาะกับองค์กร โดยจะเรียงลำดับเป็นข้อๆ เลยครับ
- Bitdefender Antivirus Plus
สำหรับโปรแกรมสแกนไวรัสที่ดีที่สุดในปัจจุบันนี้ยังคงเป็น Bitdefender Antivirus ทั้งการสแกนไวรัส , Firewall ,Ransomware,privacy tools, สามารถใช้ VPN ได้, ระบบป้องกันการธุระกรรมการเงิน รวมไปถึงระบบการทำงานต่างๆ ของโปรแกรมนั้นทำได้ดีที่สุดแล้ว
ข้อดีของโปรแกรม
– จัดการรหัสผ่านได้
– จ่ายแบบ Subscription มีการอัปเดทโปรแกรมบ่อย
– สามารถใช้ VPN เสริมการใช้งานได้
– สแกนช่องโหว่ของระบบได้
– Malicious URL Blocking
ข้อเสีย
– สามารถใช้ทรัพยากรเยอะ
– จำเป็นต้องใช้ Account Online - Kaspersky Anti-Virus
หากเเปรียบกับมวยก็คงเหมือนกับมวยถูกคู่เพราะโปรแกรม Kaspersky Anti-Virus กับ Bitdefender Antivirus กินกันไม่ลงจริงๆ ทั้งคุณภาพโปรแกรม, Feature ของโปรแกรม,การสแกนไวรัส,เครื่องมือต่างๆ นั้นเป็นอะไรที่ดีพอฟัดพอเหวียงกับโปรแกรม Bitdefender เลย จริงเป็นจัดว่าเป็นอีกหนึ่งโปรแกรมที่เราแนะนำให้ใช้งาน โดยเปรียบเทียบจากงบประมาณและความคุ้มค่านั้นตัว Bitdefender มีราคาถูกกว่า Kaspersky เท่านั้นเองถึงได้อันดับ 1 จากเราไป
ข้อดีของโปรแกรม
– โปรแกรมที่มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด ใช้งานง่ายสุด ๆ
– ได้คะแนนดีมากในการทดสอบการปิดกั้นมัลแวร์และ URL ที่เป็นอันตรายกับคอมพิวเตอร์
– คะแนนที่ดีมากแบบในการทดสอบการป้องกัน phishing
– ได้รางวัล Antivirus Editors’ Choice
ข้อเสีย
– Kaspersky full suites คุ้มค่ามากกว่า
– โปรแกรมไม่ค่อยมีการอัปเดทแก้ปัญหากับระบบ Os มากนัก
– ระบบมีการทำงานทับซ้อนกัน - Norton AntiVirus Plus
โปรแกรมที่ดีอีกตัวสำหรับการใช้งานในองค์กรนั้นคือ Norton Antivirus เป็นโปรแกรมยอดฮิตติดอันดับมาหลายปีในองค์กรเพราะมีระบบการบริการหลังการขายดี หาซื้อง่าย ป้องกันไวรัสได้ดี ใกล้เคียงกับ Bitdefender
ข้อดีของโปรแกรม
– อัปเดทข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับภัยคุกคามมัลแวร์ล่าสุด
– ใช้บนทรัพยากรระบบคอมพิวเตอร์น้อย
– สมัครสมาชิกราคาไม่แพง
– รองรับ online backup, firewall, exploit protection, password manager
ข้อเสีย
– Plug-in เบราว์เซอร์ที่ไม่น่าเชื่อถือ
– ไม่มีการสแกนช่องโหว่ของระบบ
– Data Protector มีคุณภาพต่ำในการทดสอบ
– ราคาเเพง ไม่มี License สำหรับการซื้อปริมาณมาก - Bullguard Internet Security
โปรแกรมที่หลายคนอาจจะไม่ได้ยินชื่อแต่เป็นโปรแกรมที่ทำงานได้ดี ผลการสแกนไวรัสก็จัดว่าเป็นอันดับต้นๆ เลยเพียงแค่ไม่ดังเท่านั้นเอง รวมไปถึงการทำงานกับระบบ Windows ได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นกันจึงเป็นโปรแกรมที่เราแนะนำให้ใช้งาน โดย Office ใหญ่ของบริษัทตั้งอยู่ที่เมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษด้วย
ข้อดีของโปรแกรม
– ป้องกันการโจมตีของมัลแวร์ โดยทดสอบจาก web ทดสอบ e-mail (Real-World Testing) ได้ผลจาก labs ถึง 99.1%
– ป้องกัน malware ได้ 100%
– ใช้งานกับคอมพิวเตอร์ทั่วไปได้รวดเร็วไม่น่วง
– มี VPN
ข้อเสีย
– บริการหลังการขายยังไม่มีในไทย ติดต่อแล้วไม่ค่อยได้รับการช่วยเหลือที่ถูกต้อง
– มีการนำเสนอการขายโปรแกรมหรือลดราคาโปรแกรมตลอดเวลาที่ใช้งานอยู่ - Windows Defender
โปรแกรมที่ติดมากับ Windows 10 นั้นคือ Windows Defender หากใครจะบอกว่า Windows ไม่มีโปรแกรมสแกนไวรัสนั้นก็คงผิดไปเยอะเพราะตอนที่เราลง Windows ตั้งแต่แรกมันก็มีโปรแกรม Windows Defender มาแล้ว หากใครว่าโปรแกรมไม่ดีคงไม่จริงเพราะโปรแกรมนี้นั้นได้รับการทดสอบจากผล Labs คะแนนออกมาดีมากๆ รวมถึงกับการทำงานกับ windows ก็มีความเสถียนและเร็วรวดไม่น่วงด้วยหากไม่มีงบเยอะก็แนะนำให้ซื้อ Windows 10 Pro ของแท้ก็เพียงพอกับการใช้งานแล้ว
ข้อดีของโปรแกรม
– ติดมากับระบบ Windows 10 ไม่ต้องซื้อเพิ่ม
– อัปเดทความปลอดภัยตลอดควบคู่กับ path ของ Windows
– ป้องกันการโจมตีจาก ไวรัส,spyware ,malware ได้
– มี Firewall ออกแบบมาเพื่อป้องกัน hackers และ ซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตรายจากการใช้งาน Internet ได้
ข้อเสีย
– มีความช้าหากใช้งานกับโปรแกรมจำนวนมากๆ บน Windows
– สแกน malware ไม่ผ่าน 100% หากเจอ malware ใหม่ๆ จะอัปเดทไม่ทันโปรแกรมอื่น - Trend Micro Antivirus+ Security
โปรแกรมที่แนะนำอีก 1 โปรแกรมสำหรับองค์กรเป็นที่นิยมในการใช้งานในระบบราชการมาอย่างยาวนานเพราะมีการป้องกันไวรัสได้ดี ปกป้องเอกสารและข้อมูลได้ยอดเยี่ยม รวมถึงการสแกนไวรัสได้ดีเทียบเคียงกับโปรแกรม Bitdefender จึงไม่แปลกใจนักที่เป็นที่นิยมของคนไทย แถมคะแนนการทดสอบจาก Labs สูงลิ่วเทียบเคียงกันมาด้วย แล้วเราจึงอยากแนะนำให้เป็นอีกโปรแกรมที่ใช้งานได้ดีกับองค์กรหรือ Office ที่ทำงานแล้วต้องการความปลอดภัยสูง
ข้อดีของโปรแกรม
– ผลการทดสอบจาก av-test labs มีความปลอดภัยสูงสุด
– ป้องกัน ransomware และอันตรายทางออนไลน์อื่นๆ ได้ดี
– ป้องกันอีเมลฟิชชิ่ง
– มี Password manager,
– แก้ไขปัญหาที่พบบ่อยบน Windows และปรับจูนกาทำงานของระบบให้ทำงานได้รวดเร็วมากขึ้นได้
ข้อเสีย
– ใช้ทรัพยากรเครื่องเยอะแต่ไม่ถึงกับสูงมาก
– ยังป้องกันการลงโปรแกรมที่ไม่ถูกต้องบน windows ไม่ได้ดีมากนัก - NOD32 Antivirus
อีกหนึ่งโปรแกรมที่ไม่พูดถึงไม่ได้เพราะเป็นที่นิยมอันดับ 1 ของคนไทยเลย เนื่องจากการใช้งานที่ง่าย สะดวก install ได้ง่ายรวมถึงเบาเครื่องด้วยจึงทำให้เป็นที่นิยมมากๆ โปรแกรมสามารถป้องกันไวรัสได้ดี แต่ส่วนใหญ่จะหลุดเข้ามาติดในเครื่องก่อนแล้วเปิดสแกนก็จะเจอไวรัส หากเทียบทุกโปรแกรมที่กล่าวมาโปรแกรม Nod32 นี้ถือว่ามีไวรัสหลุดสแกนเยอะที่สุด โดยองค์กรหรือ Office ใดๆ ที่ต้องการความปลอดภัยขั้นสูงสุดควรเลี่ยงโปรแกรมนี้ แต่หากใช้งานทั่วไปนั้นเราแนะนำเลยว่ามันสะดวกจริงๆ แต่ถึงอย่างไรก็ตามการมีโปรแกรม NOD32 ติดเครื่องไว้ดีกว่าไม่ลงโปรแกรมสแกนไวรัสใดๆ เลย
ข้อดีของโปรแกรม
– ใช้งานได้ง่าย สะดวก
– มีการป้องกัน Malware, Malicious URL Blocking, phishing
– มีระบบช่วยป้องกันไม่ให้ HIPS ทำงาน
– มีระบบ UEFI ช่วยค้นหา malware ได้ถึง firmware
– มีระบบช่วยควบคุมอุปกรณ์และค้นหาอุปกรณ์
– ป้องกันการลงโปรแกรมที่มาพร้อมไวรัสได้ดี
ข้อเสีย
– ป้องกันไวรัสได้คะแนนต่ำที่สุดในโปรแกรมสแกนไวรัส 5 โปรแกรมที่ผ่านมา
– คะแนนการป้องกัน phishing พอใช้ได้
– ระบบช่วยควบคุมอุปกรณ์มีความซับซ้อน
สรุปแล้วการจะใช้งาน Antivirus สักตัวนั้นต้องพิจารณาจากงบประมาณบริษัทหรือองค์กรด้วย แต่การไม่ลงโปรแกรมสแกนไวรัสเลยนั้นจะส่งผลเสียหายมากกว่าที่คาดคิดได้ เช่น ไฟล์ข้อมูลสูญหาย, Windows ไม่สามารถเข้าใช้งานได้, เสียเวลาในการซ่อมบำรุง, พนักงานไม่มีคอมพิวเตอร์ใช้งานระหว่างการซ่อมบำรุง ทุกอย่างที่กล่าวมานั้นหากเพียงลงทุนใช้โปรแกรมสแกนไวรัสของแท้ก็จะไม่เกิดการเสียหายแล้วซึ่งไม่ว่าจะมองจากมุมไหนก็ตามก็คุ้มค่าที่จะลงทุนมากๆ โดยหากซื้อจากเว็บ Offical ของทางเว็บไซต์ตรงๆ จะได้ราคาที่ค่อนข้างแพง เราจึงแนะนำให้ซื้อผ่านเว็บไซต์ของเราที่เป็นของแท้และราคาถูกมากๆ กว่าตลาดทั่วไปแถมยังรับประกันสินค้าให้ทุกคนด้วยลองดูได้ที่นี้เลยครับ